thai
เวรกรรมมีจริง ประจักษ์ชัย เคยนำนักร้องขึ้นเวที ถูกแจ้งจับติดคุก ละเมิดลิขสิทธิ์ สุดท้ายแตกคอ
October 23, 2018
วันที่ 24 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสำนักข่าว DeepsTnews ได้ตรวจสอบการเข้าสู่วงการเพลงของนายประจักษ์ หรือ ประจักษ์ชัย ก็พบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนักร้องและคดีความที่เจ้าตัวเคยเข้าไปเกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ โดยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2555 เวลา 12.00 น. ที่สภ.เมืองกาฬสินธุ์
ด.ต.สงกรานต์ แสนกันยา สิบเวรฯ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้นำตัวนายไพรัตน์ ขอดเมชัย หรือ เซียง สะหวัน อายุ 59 ปี นักร้องและนักแต่งเพลงดังสุดฮิตปลาค่อใหญ่ เข้าห้องขังเพื่อรอการสอบสวนหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์จับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ตามหมายจับของศาลกาฬสินธุ์เลขที่ จ.516/55 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2555 ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลกาฬสินธุ์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ประจักษ์ชัย

อาม ชุติมา
สำหรับในคดีนี้นายไพรัตน์ ขอดเมชัย หรือที่เรียกกันว่า เซียง สะหวัน อายุ 59 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 160 หมู่ที่ 7 บ้านโคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม เป็นนักร้องต้นตำรับเพลงปลาค่อใหญ่ ซึ่งเป็นเพลงที่กำลังเป็นที่นิยมทั่วประเทศ ซึ่งก่อนหน้านั้นนายไพรรัตน์ฯ ได้รับงานมาร้องเพลงและโชว์ตัวที่บ้านต้อน ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังจากนั้น หจก. ไอทีซี เรคคร์อด ซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 408/262 หมู่ที่ 11 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนอคาย โดยนายกันตพล ใจบุญ ผู้จัดการบริษัทฯ ได้รับมอบอำนาจเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยกล่าวหาว่านายไพรัตน์ ขอดเมชัย หรือ เซียง สะหวัน ได้ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ปลาค่อใหญ่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวและเข้าจับกุมที่ บขส. จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2555
ขณะที่นายไพรรัตน์ ขอดเมชัย หรือเซียง สะหวัน นักร้องเพลงดัง กล่าวว่า เพลงปลาค่อใหญ่ ตนเองเป็นผู้แต่งและเขียนไว้นานแล้ว โดยนำเอาทำนองสาวหนองใหญ่เป็นลายทำนองเพลง ซึ่งตนเองได้แต่งงานกับชาวลาวและอยู่กินกันมานาน ที่เดิมทำอาชีพทำนาจนกระทั่งเพลงปลาค่อใหญ่ที่ส่งลงอินเตอร์เน็ตโด่งดัง ซึ่งเริ่มแรกดังอยู่ทางฝั่งลาวและมีเครือข่ายอีกกว่า 16 ประเทศที่เพลงนี้ไปโด่งดัง
“จากนั้นไม่นานได้มีบริษัทฯหนึ่งติดต่อให้มาทำสัญญาเพื่อร้องเพลงลงแผ่นขาย ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องกฎหมายและไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องอะไรใหญ่โต จึงเซ็นต์ทำสัญญาไป แต่หลัง ๆ มานี้มีคนติดต่องานให้ไปแสดงและร้องเพลงในจังหวัดต่าง ๆ มากขึ้นอาจเพราะความโด่งดังของเพลง และเมื่อมีงานก็จะข้ามมาจากฝั่งลาวและมาแสดงในไทยหลายสิบงาน โดยรายได้ที่รับมาก็รับเองทั้งหมดไม่ได้ผ่านบริษัทเพราะไม่คิดว่าจะต้องรับงานผ่านบริษัทเนื่องจากไม่รู้เรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ อีกทั้งตอนที่เซ็นต์สัญญาก็รับรู้ว่าเป็นสัญญาให้ร้องอัดแผ่น ต้องบอกว่าไม่รู้เรื่องกฎหมายจริง ๆ โดยเฉพาะการละเมิดลิขสิทธิ์อะไรพวกนี้ไม่รู้จริง ๆ เพราะเพลงนี้แต่งเองร้องเองมานานแล้ว” เจ้าของเพลงดังกล่าว
ต่อมาทีมข่าวได้สัมภาษณ์นางพัชรี ศัลกวิเศษ ผู้บริหารไอทีซีเรคคอร์ดปัจจุบัน ซึ่งได้เล่าถึงเรื่องราวเมื่อปี2555 ให้กับทีมข่าวฟังว่าเรื่องนี้ได้จบไปแล้ว ทางบริษัทได้แจ้งดำเนินคดีกับนายไพรัตน์จริง เพราะได้ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยไปขึ้นเวทีร้องเพลงดังกล่าวไม่ผ่านบริษัททั้งที่ได้ทำสัญญาเป็นนักร้องในสังกัด ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนกฎหมาย ตอนนั้นทางผู้ต้องหาก็ได้ประกันตัวไป ซึ่งทางบริษัทมีสัญญาทำกันไว้เป็นหลักฐานที่ชัดเจน
“เขาไปขึ้นเวทีกับนายประจักษ์ คล้ายๆกับตอนนี้ที่เกิดขึ้นกับอาม ชุติมา ที่ไปขึ้นเวทีแล้วโดนจับเพราะละเมิดสิทธิ์ นายประจักษ์ก็มีความผิดเขารู้ว่านายไพรัตน์เป็นนักร้องในสังกัดตน แต่คงไม่รู้รายละเอียดของสัญญาจึงพานายไพรัตน์ไปขึ้นเวที ก็โดนดำเนินคดี เหมือนตอนนี้ที่นายประจักษ์ไปแจ้งจับอาม คล้ายเวรกรรมตามสนองหรือเปล่าอันนี้ เหตุการณ์มันคล้ายกัน แต่ตอนนั้นนายประจักษ์เป็นคนดึงนักร้องไปขึ้นเวที ยืนยันว่านายประจักษ์ไม่เกี่ยวอะไรกับบริษัท ตอนหลังทราบว่าแตกคอ แยกย้ายกับนายไพรัตน์เพราะเรื่องผลประโยชน์เรื่องเพลง เรื่องจำพวกนี้”
ที่มา Jamestv Kalasin
Cr:https://www.siamnews.com/view-24882.html
0 comments