thaipost18

ต้องบอกว่าเป็นนางเอกสาวที่ตอนนี้ไม่พูดถึงคงไม่ได้ สำหรับ "แมท ภีรนีย์" หลังจากพ่อม้ายป้ายแดง



"สงกรานต์ เตชะณรงค์" ออกมายอมรับตรงๆ กำลังศึกษาดูใจกับสาวแมท แต่ยังไม่ถึงสถานะเรียกแฟน


ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต ที่ไม่เห็นด้วยกับการคบหากันของทั้งคู่ ทางสาวแมท และสงกรานต์ ยังคงนิ่งสยบไม่ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นที่หลายคนสงสัย
วันนี้ (6 พ.ย.) เราจึงนำสเปคชายในฝันของ "แมท ภีรนีย์" จากเพจเฟซบุ๊ค แม่สื่อแม่ชัก ที่เผยไว้ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม หลังจากเจ้าตัวอยู่ในสถานะโสด เลิกกับแฟนหนุ่ม "ไฮโซแพท ทวิรัส อมาตยกุล" ที่คบหากันนานถึง 14 ปี มาให้ชมกัน


โดยสเปคชายที่แมทชอบคือ "หนุ่มที่สูงกว่า ฉลาด สะอาด ใจดี มีการศึกษา รักสัตว์ และรักเดียวใจเดียว"



 นั่นเอง
แมท ภีรนีย์


ภาพจาก mattperanee


ภาพจาก mattperanee


ภาพจาก mattperanee


Cr:https://www.siamnews.com/view-25587.html

จากกรณี หลวงปู่ลี กุสลธโร ประธานสงฆ์วัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดป่าภูผาแดง) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และเป็นศิษย์เอกของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ละสังขาร เมื่อเวลา 15.15 น.วันที่ 3 พ.ย. ตามที่พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต เจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดป่าภูผาแดง) ได้ประกาศให้ทราบและได้มีศิษยานุศิษย์กันหลั่งไหลกันมากราบและร่วมรดน้ำสรีระของท่านที่ศาลาของวัดกันอย่างเนืองแน่น และทั้ง วันที่ 3 และ 4 พ.ย.ที่ผ่านมาหลายหมื่นคน รถหลายพันคันพากันติดกันยาวเหยียดถึง 5 ก.ม. จนคนที่ไปวัดต้องลงจากรถพากันเดินเท้าขึ้นไปร่วมรดน้ำสรีระของหลวงปู่กันต่อมาวันที่ 5 พ.ย.ทางตำรวจและอำเภอ ได้ประชุมร่วมกันจัดการจราจรเข้าวัดดีขึ้นถึงแม้จะมีประชาชนมาร่วมมากก็ตาม ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาแล้วนั้น



ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 6 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รายงานมาว่า ในวันนี้ได้มีประชาชนพากันหลั่งไหลมาที่ วัดป่าภูผาแดง กันหลายพันคน การจราจรมีการชะลอบ้าง แต่ก็ยังลื่นไหลได้ดี ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและ อส.ได้จัดให้รถเข้าจอดที่ลานจอดรถ ก่อนเข้าบริเวณวัด จากนั้นประชาชนก็ขึ้นรถสองแถวที่ทางวัดจัดหามารอรับอยู่เข้ามาในวัด บางคนที่อยู่ต่างจังหวัดก็นำเต้นท์มากางนอนที่บริเวณรอบๆ ลานวัด ที่หน้าวัดและในบริเวณวัดได้มีผู้มีจิตศรัทธามาตั้งโรงทานเป็นจำนวนมากมา ให้บริการ และได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่ 24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ์ มาช่วยให้การบริการและดูแลความเรียบร้อยในวัดอีก 40 นาย ขณะที่พระอุทาน จารุธมฺโม พระลูกศิษย์คนสนิทและผู้ดูแล “หลวงปู่ลี” ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลการจัดงานทั้งหมด กล่าวว่าในวันนี้บรรยากาศในงานทุกอย่างลงตัวด้วยดี ทุกอย่างปกติ
พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 ซึ่งได้เดินทางมาช่วยดูแลงานในครั้งนี้ได้เปิดเผย ว่า ตนได้เดินทางมาในฐานะลูกศิษย์ของหลวงปู่ ก็ได้มาช่วยในการดูแลด้านกำลัง เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่มาก่อน ก็ทราบดีว่าในเขตนี้ถ้ามีงานใหญ่ๆ ขึ้นมาแล้วก็จะมีปัญหาทางด้านการจราจรรถติดกันมากๆ และตามธรรมดาก่อนหน้านี้ที่หลวงปู่จะละสังขาร ก็มีคนมากราบท่านเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว เมื่อทุกคนทราบข่าวเรื่องการละสังขารของท่านก็ได้พากันหลั่งไหลเดินทางกันมาร่วมรดน้ำสรีระของท่านกันเป็นจำนวนมากแล้วโดยเฉพาะพื้นที่วัดนั้นเป็นป่าเขาที่ราบมันน้อยพื้นที่สำหรับจะจอดรถน้อยมาก เมื่อมีประชาชนมากันมาก จึงทำให้การจราจรมีปัญหามากโดยเฉพาะช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้รถติดกว่าจะถึงวัดได้ต้องใช้เวลาถึง 2-3 ชั่วโมง
พล.ต.ต.บุญลือ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทาง พ.ต.อ.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ก็ได้บริหารจัดการต่างๆ ของงานนี้ โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 อำเภอคือ สภ.เมืองอุดรฯ สภ.กุดจับ สภ.หนองแสง ได้เข้ามาช่วย สภ.หนองวัวซอ ช่วยดูแลความเรียบร้อย ตลอดเส้นทางที่ประชาชนจะเดินทางมาร่วมของเผาสรีระของหลวงปู่กัน มาช่วยดูแลการเดินทาง ตลอดเส้นทางเข้าออกในวัดในระหว่างงานของหลวงปู่จนกว่าจะเสร็จสิ้นในครั้งนี้ ซึ่งในขณะนี้ก็ยังมีคนจำนวนมากราบสรีระของหลวงปู่อยู่ตลอดมาเป็น และคิดว่าในวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งเป็นวัดเผาสรีระของหลวงปู่ คนคงจะเนืองแน่นมากกว่านี้หลายสิบเท่า ดังนั้นก็ต้องวางแผนการจราจรให้ดี เพื่อให้รถเลื่อนไหลได้ตลอด
พล.ต.ต.บุญลือ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเตรียมการของตำรวจในขณะนี้ก็มีการเตรียมการในด้านของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ ทั้งจุดที่จอดรถและเตรียมรถที่จะขนส่งประชาชนไป-กลับที่วัด ซึ่งจะมีทั้งรถสองแถวที่ทางวัดจัดหามาให้ และรถตู้ของตำรวจที่มาจากโรงพักต่างๆ ที่มาคอยให้บริการประชาชน นอกจากนั้นก็ช่วยดูแลส่วนในเส้นทางที่เข้าไปที่วัดทั้งที่สี่แยกหนองวัวซอ ซึ่งเป็นเส้นทางที่มาจากทั้งจ.เลย จ.หนองบัวลำภู และจ.อุดรธานี ตามปกติก็เป็นเส้นทางที่หนาแน่นมากที่สุดแม้เวลาไม่มีงานก็ตาม ก็จะใช้วิธีการประชาสัมพันธ์ให้พยายามใช้เส้นทางเบี่ยง หรือเส้นทางอื่นที่จะเข้าไปวัดได้เช่นกัน
พล.ต.ต.บุญลือ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของไฟจราจรนั้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคอยกดสัญญาณปรับเปลี่ยนตามสภาพของเป็นจริง คอยดูแลสถานการณ์ในช่วงที่การคมนาคมเยอะๆ เป็นเส้นทางเข้าออกก็จะปล่อยสัญญาณไฟเขียวนานหน่อย นอกจากนี้ในด้านความปลอดภัย ซึ่งต้องใช้กำลังจำนวนมากตามจุดจอดรถต่างๆ คอยดูแลของมีค่าที่อยู่ในรถไม่ให้โดนขโมยไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากหลวงปู่ลีละสังขาร ได้มีการเปิด “พินัยกรรมหลวงปู่ลี กุสลธโร” นั้น ซึ่งหลวงปู่ลี ได้ทำไว้ดังนี้คือ



พินัยกรรมหลวงปู่ลี กุสลธโร ทำไว้ที่วัดป่าภูผาแดง ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2555
อาตมาพระลี กุสลธโร อายุ 89 ปี มีภูมิลำเนาอยู่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า เมื่ออาตมามรณภาพ แล้วมีปัจจัยที่ได้จากการร่วมบริจาคในงานศพของอาตมาทั้งหมดให้นำไปเข้าบัญชี ร่วมสร้างเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าภูผาแดง โดย หลวงปู่ลี กุสลธโร เพื่อใช้จ่ายในการสร้างเจดีย์ฯ ณ วัดป่าภูผาแดง เท่านั้น
โดยมอบให้ น.พ.สุทธิพงษ์ ปิ่นแก้ว (หมออ้วน) และนายทวี หอบรรลือกิจ เป็นผู้ดำเนินการรวบรวม และนำปัจจัยทั้งหมดนั้น นำเข้าบัญชีร่วมสร้างเจดีย์ ดังกล่าวข้างต้นโดยเร็ว เมื่อเสร็จสิ้นงาน
อนึ่ง หนังสือพินัยกรรมฉบับก่อนที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2554 ที่วัดป่าบ้านตาดนั้นขอยกเลิกและให้เป็นโมฆะและยึดถือพินัยกรรมฉบับนี้เท่านั้น หนังสือนี้ทำไว้ 4 ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกันโดยเก็บไว้ที่ 1.) วัดป่าบ้านตาด 2.) วัดป่าภูผาแดง 3.) ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุดรธานี 4.) น.พ.สุทธิพงษ์ ปิ่นแก้ว (หมออ้วน)
หนังสือนี้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจของอาตมาและอาตมามีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ พร้อมทั้งมิได้มีผู้ใดบังคับขู่เข็ญ จึงลงชื่อต่อหน้าพยาน ลงชื่อ พระลี กุสลธโร ลงชื่อพยาน พระอุทาน จารุธมฺโม, พระกนก กนโก, พระประเวศ สญญฺจิตโต
อนึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 18.00น. วันที่ 5 พ.ย. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวราราชาธินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้ นายสุริยพันธ์ ราชวังเมือง ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ รักษาราชการแทนผู้ควบคุมการปฏิบัติราชการวังเทเวศร์ เชิญแจกันดอกไม้ ผ้าไตร และพวงมาลาประทาน ถวายสักการะสรีระสังขาร หลวงปู่ลี กุสลธโร ประธานสงฆ์วัดป่าเกสรศีลคุณธรรมเจดีย์ โดยมีพระอาจารย์อินถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย เป็นประธานสงฆ์ แม่ชี หม่อมหลวงสราลี กิติยากร นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี คณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ ร่วมประกอบพิธีสวดมนต์ทำวัตรเย็นแผ่เมตตาอธิษฐานจิต
ข้อมูลจาก ข่าวสด


Cr:https://www.siamnews.com

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 61 ได้มีสมาชิกเฟสบุ๊คท่านหนึ่งคือ นายณขจร จันทวงศ์ ได้ใช้ "โปรแกรมกูเกิลเอิร์ธ" ซึ่ง



เป็นโปรแกรม แผนที่ ที่จะบอกถึงรายละเอียด และภูมิประเทศ ได้อย่างชัดเจน แต่ที่น่าตกใจที่สุดเมื่อได้สำรวจแถวด้านบนภาคเหนือ ของประเทศไทย กลับพบเครื่องบินปริศนาลำหนึ่ง


ซึ่งทางด้านเจ้าของคลิปได้ใช้ โปรแกรมกูเกิลเอิร์ธ อยู่ดีๆ ก็เกิดไปพบเข้ากับสิ่งประหลาดแปลกปลอม อยู่ภายใน รอยต่อของจังหวัดเชียงราย จังหวัดลำปาง และจังหวัดพะเยา ซึ่งสิ่งที่พบนั้นก็คือ ซากเครื่องบินลำหนึ่ง ซึ่งดูแล้วมีสภาพที่สมบูรณ์มาก
โดยจุดที่พบซากเครื่องบินปริศนานั้น อยู่ห่างจาก อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยสภาพพื้นที่ของเครื่องบินลำดังกล่าวนั้นโดยรอบ เป็นเหวลึกลงไป ทำให้เป็นจุดซ่อนเร้นไม่สามารถมองจากบนพื้นผิวปกติแล้วจะเห็นได้


ทางด้าน นายณขจร ได้ให้ข้อมูลในสื่อว่า ได้พบซากเครื่องบินลำนี้โดยบังเอิญ ในขณะที่กำลังสำรวจดู



สภาพพื้นที่บริเวณแม่น้ำล้านช้าง ไล่ลงมาเรื่อยๆ และได้สะดุดตากับวัตถุบางอย่าง พอสังเกตดีๆนั่นคือเครื่องบินลำใหญ่ โดยเครื่องบินลำนี้ปรากฎอยู่ใน กูเกิลเอิร์ธ เมื่อปี 2559


แต่ในช่วงปีนั้นกลับไม่พบอุบัติเหตุแถบนั้นเลย และที่น่าประหลาดในคือ เมื่อซูมลงไปดูใกล้ๆจะพบแสงประหลาดรอบเครื่องบิน โดยที่ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าคือแสงอะไร
คลิป



คลิปจาก ข่าวดัง เฟสบุ๊ค , นายณขจร จันทวงศ์


Cr:https://www.siamnews.com

จากกรณีเมื่อวันที่ 5 - 6 ธ.ค.2541 นายบุญฤทธิ์ ครุฑละออง พร้อมกับพวก ได้ร่วมกันใช้อาวุธมีดฆ่านายประสิทธิ์ แซ่อื้อ และนายชาณี ทองหญีต แล้วนำศพมาทิ้งไว้ที่บริเวณสระน้ำริมทาง บ้านท่าตะเภา ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยก่อนเกิดเหตุนายประสิทธิ์ฯ และนายชาณีฯ ผู้ตาย ได้ขับรถสิบล้อ เพื่อไปบรรทุกไม้ยางที่บริษัทเมโทร ในเขตพื้นที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อผู้เสียชีวิตทั้งสองมาถึงที่



บริษัท ปรากฏว่าไม่มีไม้ยางจะบรรทุก จึงได้จอดรถรออยู่หน้าบริษัท ในขณะที่รออยู่นั้น นายบุญฤทธิ์ฯ พร้อมพวก ได้มาพบและทำทีว่าจ้างให้ไปบรรทุกทราย แต่ผู้ตายทั้งสองไม่ไป หลังจากนั้น นายบุญฤทธิ์ พร้อมพวก ได้ใช้อาวุธมีดจี้บังคับ ผู้ตายทั้งสองให้ขึ้นรถยนต์กระบะ โดยใช้ถุงพลาสติกสีดำคลุมศีรษะ และใช้อาวุธมีดฆ่านายประสิทธิ์ และนางชาณี ก่อนนำศพมาทิ้งไว้ที่บริเวณสระน้ำริมทาง ต่อมามีผู้ไปพบศพ จึงแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน และศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกหมายจับ ลงวันที่ 22 ก.ย.2551 ซึ่งคดีกำลังจะหมดอายุความ ในวันที่ 2 ธ.ค.2561
ด้าน พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. กล่าวว่า ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกหมายจับ ที่ 786/2551 ลงวันที่ 22 ก.ย.2551 ซึ่งคดีกำลังจะหมดอายุความ ในวันที่ 2 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุนั้นภรรยาของหนึ่งในผู้ตายได้ตั้งครรภ์และต่อมาคลอดบุตรชาย ปัจจุบันบุตรของผู้ตายสามารถสอบบรรจุเข้ารับราชการตำรวจได้ติดยศ สิบตำรวจตรี สังกัด ตำรวจภูธรภาค 8 และสืบสวนจนทราบว่า นายบุญฤทธิ์ ผู้ฆ่าบิดาตนเองยังไม่ถูกจับกุม จนได้เบาะแสแหล่งกบดาน จึงได้ประสานชุดสืบสวนกองปราบฯเข้าวางแผนจับกุม


โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อ ปี 2541 ซึ่งสามี ภรรยา ที่เสียชีวิต มีบุตร ด้วยกัน หลังจากพ่อแม่ตายแล้ว บุตรได้เติบโตจนถึงปัจจุบัน สอบบรรจุเข้ารับราชการตำรวจได้ และสืบสวนจนทราบว่านายบุญฤทธิ์ฯ เป็นผู้ฆ่าบิดาตนเอง และยังไม่ถูกจับกุม จึงได้ประสานชุดสืบสวน เข้าวางแผนจับกุม ซึ่งชุดสืบสวนทราบว่านายบุญฤทธิ์ฯ ได้มาขับรถไถรับจ้างที่บริเวณสวนปาล์ม ในหมู่บ้าน ม.2 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบ และพบตัวนายบุญฤทธิ์ฯ จึงนำตัวมาสอบสวน นายบุญฤทธิ์ฯ ให้การยอมรับว่าก่อเหตุเมื่อปี 2541 จริง และทราบว่าตนเองมีหมายจับ จึงหลบหนี และไม่ได้ทำบัตรประชาชนอีกเลย นับตั้งแต่นั้นมา ขอให้การปฏิเสธ และจะขอต่อสู้คดีในชั้นศาล ชุดสืบสวนจึงจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน จว.สุราษฎร์ธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ซึ่งหลังจากจับกุมคนร้ายที่หนีคดีกว่า20ปีได้ ทาง ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ มากประดิษฐ์ หรืออาร์ม ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.สส.ภ.8 ซึ่งเป็นลูกชายของ นายประสิทธิ์ ผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยว่า ตอนจำความได้เคยถามแม่ว่าพ่อหายไปไหน แต่แม่ไม่บอก


จนกระทั่งตนรบเร้าหลายๆ ครั้ง จนแม่ยอมบอกว่าพ่อถูกฆ่า และบอกอีกว่าพ่ออยากให้ตนเป็นนายร้อยตำรวจ จึงมุ่งมั่นสอบเข้าตำรวจให้ได้ตามที่พ่อคาดหวัง อีกทั้งอยากจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันฆ่าพ่อด้วย ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวต่อไปว่า รู้สึกดีใจมากที่ผมมีส่วนร่วมจับกุมคนร้ายที่ฆ่าพ่อผมได้ โดยคดีนี้ผมสืบสวนหาข่าวด้วยตัวเอง เนื่องจากตำรวจท้องที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ เมื่อได้ข้อมูลว่าคนร้ายกลับเข้ามาในพื้นที่จึงประสานกองปราบจับกุมดังกล่าว



ฟังจากปากแม่ "เราไม่รู้อะไรเลยในตอนนั้น รู้แค่สามีเราถูกฆ่าโหดเหี้ยมมาก เอาถุงพลาสติกมาคลุมหัว มือ 2 ข้างถูกมัดไพล่หลัง พี่เขยก็ถูกฆ่าปาดคอ นำศพไปหมกในสระน้ำริมทางบ้านท่าตะเภา ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนฆ่าเพราะอะไรตอนนี้ยังไม่มีใครให้คำตอบดิฉันได้ แม้กระทั่งผู้ต้องหาที่เพิ่งจับไปล่าสุดเมื่อวานนี้ก็ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่า แต่หากใครได้มาฟังคำบอกเล่าสภาพศพของสามีจะรู้ว่า มันโหดเหี้ยมทารุณมาก นอกจากที่ดิฉันเสียใจมากแล้ว ในสมองก็ได้แต่คิดว่า จะทำมาหากินเลี้ยงลูกลำพังได้อย่างไร"


"ทำมาหากินคนเดียวเพื่อเก็บเงินส่งให้น้องอาร์มเรียนจนจบ กระทั่งสอบติดเข้าเป็นตำรวจตามความฝันของพ่อเขา อันนี้คือความตั้งใจจริงๆ นะ แต่ถามว่าจะเป็นตำรวจเพื่อมาล้างแค้นหรือมาจับฆาตกรที่ฆ่าพ่อเขาหรือเปล่า อันนี้ไม่ใช่จุดประสงค์หลัก เพราะพ่อเขาพูดไว้ตั้งแต่ก่อนถูกฆ่าตายแล้วว่าอยากให้ลูกชายเป็นนายตำรวจ กระทั่งเมื่อลูกสอบติดตามความฝัน จึงตัดสินในกลับไปหาข้อมูลรื้อคดีติดตามคนที่ฆ่าพ่อ เนื่องจากมีชื่อตามหมายจับของ สภ.พุนพิน ที่สำคัญก่อนที่ผู้ต้องหาคนนี้จะถูกจับเขาเคยมาป้วนเปี้ยนที่บ้าน ทำให้ดิฉันรู้สึกไม่ปลอดภัย เหตุนี้เองลูกชายจึงเร่งตามคดี ประสานกองปราบปราม เข้าจับกุม"


"ดิฉันเองก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร คิดว่าเรื่องมันผ่านเลยไปแล้ว ที่สำคัญตำรวจก็ยังไม่ได้จับ คิดว่าก็ต่างคนต่างอยู่กันไป กระทั่ง ผู้ต้องหากลับเข้ามาในพื้นที่อาศัยของดิฉันในท่าแซะ ก่อนจะมาตะโกนเรียกหน้าบ้านทำนองคุกคาม น้องอาร์ม รู้สึกเป็นห่วงแม่ จึงรีบออกสืบสวนติดตามตัว และพอเขารู้ว่าน้องอาร์ม เป็นตำรวจเขาก็เริ่มจะเกรงกลัวหลบหนีหายไปไม่มาคุกคามที่บ้านอีก ต่อมาสืบทราบว่า ผู้ต้องหา มารับจ้างขับรถไถที่สวนปาล์ม หมู่ 2 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ลูกชายจึงประสานกองปราบจับกุม"


"ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท้องที่เขามีเหตุผลความจำเป็นหรือความไม่พร้อมทางด้านไหนถึงไม่ดำเนินการต่อเนื่อง ปล่อยให้คนร้ายหลบหนีมากว่า 20 ปี และน้องอาร์มก็ไม่ได้เล่าว่าทำไมถึงไปประสานตำรวจกองปราบ แต่ที่แน่ๆ ข้อมูล่าสุดทราบมาว่า คนร้ายรายนี้ เป็นลูกน้องนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง และรู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน ก่อนหลบหนีมารับจ้างขับรถไถที่บริเวณสวนปาล์ม กระทั่งประสานตำรวจกองปราบปรามจับกุมดังกล่าว"
"เห็นใจนะ แต่ทำยังไงได้ ในเมื่อมีชื่อในหมายจับของตำรวจว่าร่วมกันฆ่า ส่วนที่เขาปฏิเสธก็เป็นสิทธิ์ของเขา หากไม่ได้ทำจริงๆ ก็สงสารเขาเพราะแก่มากแล้ว ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคุกอย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่า กระบวนการยุติธรรมจะช่วยพิสูจน์ทุกอย่างให้ชัดเจนขึ้น"


Cr:https://www.siamnews.com

ต้องบอกเลยว่าเป็นผู้หญิงที่สตรองหนักมากเลยจริงๆจ้า สำหรับ สาวแอฟ ทักษอร เพราะหลังจากหย่าขาดกับ อดีตสามี “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ก็ได้มีข่าวออกมาว่า อดีตสามีนั้นกำลังศึกษาดูใจกับสาวอื่นอยู่ด้วย และแน่นอนว่าข่าวนี้กลายเป็นทอล์คอ๊อฟเดอะทาวน์ ที่ทุกสื่อ ทุกรายการสนใจ รวมถึงรายการ แชร์



ข่าวสาวสตรอง ช่องไทยรัฐ ที่มีสาว แอฟ ทักษอร นั่งอ่านข่าว ซึ่งงานนี้ เธอต้องมานั่งฟังข่าวอดีตสามีตัวเอง ซึ่งดูจากสีหน้าแล้ว หลายคนถึงกับอดสงสารไม่ได้ และงานนี้สาวแอฟเองก็ได้เผยความในใจว่า ไม่มีอะไรจะพูด แต่ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ ขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความมาหา แม้จะเป็นข่าวอดีตสามี แต่หน้าที่พิธีกร หน้าที่ก็ต้องทำ


ภาพจาก คุยแซ่บshow
วันนี้ทีมข่าวสยามนิวส์จะพาย้อนไปฟังคำตอบของแอฟ ทักษอรตอนที่ โดนพิธีกรถามตรงว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไปแก้ไขอะไรไหม ? และจะแต่งงานไหม ? จะตอบว่ายังไงไปฟังกันเลยค่ะ
ถ้ามันย้อนเวลากลับไปได้มีจุดไหนที่เราอยากกลับไปแก้มันมากที่สุด ?
“ตอบตามความจริงเลยนะคะ ไม่ค่ะ คือแน่นอนไม่มีใครอยากมีเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเรื่องงาน โดยเฉพาะเรื่องชีวิตครอบครัวชีวิตมันก็คือชีวิตส่วนตัวของเราแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีใครไม่อยากประสบความสำเร็จ เราก็อยากจะเป็นผู้หญิงเพอร์เฟคแบบประสบความสำเร็จทุกๆด้าน งานเราก็ทำได้ดี ครอบครัวเราก็ดีอะไรแบบนี้ เราก็อยากทำให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว”


“แต่ว่าเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าเรามั่นใจว่าเราทำดีที่สุดแล้ว หมายถึงว่าเราพยายามแล้ว เราให้โอกาสแล้ว ไม่ได้หมายถึงว่าให้โอกาสคุณสงกรานต์อย่างเดียวนะคะ เราให้โอกาสตัวเอง ในการที่จะพยายามทำให้ได้ดีที่สุด แล้วมันได้เท่านี้ มันก็คือเท่านี้”



“ก็เลยไม่ได้อยากจะย้อนกลับไปแก้อะไร แล้วอดีตที่ผ่านมาเราก็มีความสุข มันก็ผ่านช่วงที่มีความสุข คือมันก็ต้องมีช่วงที่มีความสุขกับคุณสงกรานต์แน่นอนค่ะ ตอนที่เรามีความสุขเราก็เอ็นจอยเต็มที่แล้ว แต่เมื่อมันเกิดปัญหาก็แก้ปัญหากับมันเต็มที่แล้ว มันก็เลยไม่ได้อยากแก้อะไรค่ะ”


“แล้วถ้าจะบอกว่าไม่งั้นไม่น่าแต่งงานเลย เราก็จะไม่ได้มีความสุขกับคุณสงกรานต์ ณ เวลานั้น หรือเราก็จะไม่ได้มีปีใหม่ ณ วันนี้ค่ะ”
คลิป



ขอบคุณข้อมูล : Orange Mama , aff_taksaorn


Cr:https://www.siamnews.com

วันที่ 6 พย. 61 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์รายงานว่า กรมการทหารช่าง โดยกองพลทหารช่าง ได้มีเอกสารชี้แจงการฝึกเตรียมสาธิตข้ามลำน้ำทางยุทธวิธี ภายในสนามฝึกจารุมณี ค่ายบุรฉัตร หมู่ที่ 15 ต.เกาะพลับพลา



อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการซักซ้อมเตรียมการสาธิต เพื่อรับคณะเยี่ยมชมภารกิจของกรมการทหารช่าง โดยเป็นการสาธิตการข้ามลำน้ำ ขณะทำการซักซ้อมได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้เรือบรรทุกกำลังพลที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบ ร.ต.อ ชนินทร์ อิ่มเจริญ ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ


โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี โรงพยาบาลกรุงเทพฯเมืองราช โรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูลได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง เป็นการเร่งด่วน เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เบื้องต้น มีผู้เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย บาดเจ็บปานกลาง 5 นาย และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย รวมเป็น 7 นาย ซึ่งผู้บังคับหน่วยได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าประสานการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลแต่ละแห่ง เพื่อให้การดูแลกำลังพลอย่างดีที่สุด สำหรับผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ สิบเอก ยุทธพงศ์ จันทร์ขอนแก่น สังกัด กรมทหารช่างที่ 11 รักษาพระองค์
ทั้งนี้ สนามฝึกจารุมณี เป็นสนามฝึกทางยุทธวิธีข้ามลำน้ำ ในวันนี้เป็นการสาธิตต้อนรับคณะผู้บังคับบัญชาอาจารย์ ที่มาเยี่ยมชมการฝึกในวันพรุ่งนี้ ตั้งอยู่ภายในค่ายบุรฉัตร ริมถนนสายราชบุรี- จอมบึง มีการฝึกซ้อมของกำลังทหารหลายนาย


โดยใช้เรือยางเป็นพาหนะหลายลำฝึกอยู่กลางลำน้ำ ขณะฝึกได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นที่เรือยางลำหนึ่งได้เกิดระเบิดขึ้น กลางลำน้ำทำให้ทหารที่นั่งในเรือยางลำดังกล่าวได้รับบาดเจ็บตกน้ำและถูกช่วยเหลือลำเลียงส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวอย่างละเอียด ในครั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบสาเหตุ


ภาพที่เกิดเหตุ



ภาพที่เกิดเหตุ


ภาพที่เกิดเหตุ


เรียบเรียงโดย ภัทรพงศ์ ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ราชบุรี


Cr:https://www.siamnews.com/view-25581.html

เหล่าบรรดาคอหวย และนักเสี่ยงโชค ต่างก็ได้สรรหาเลขเด็ด หวยดัง หวยซอง หวยทำมือ จากหลายๆที่ หลายๆ สำนัก หรือแม้แต่ความฝันก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวลี้ลับ ควายเชื่อเรื่องแปลกๆ หรือจากสถาน



ที่ศักสิทธิ์ต่างๆ เพื่อขอโชคขอลาภ หวังปลดหนี้ หรือด้วยเหตุผลต่างจากการเสี่ยงโชค เริ่มต้นงวดใหม่
มาแล้วแนวทางหวยเด็ด เลขเด็ด หวยนิรนามเด่นล่าง งวดวันที่ 1ตุลาคม 2561 เชิญคอหวยพิจารณาได้เลยค่ะว่าหวยเลขเด็ดนิรนามเด่นล่าง งวดวันที่ 1/10/61 ชุดนี้จะมีเลขเด็ดอะไรที่น่าสนใจมาบ้างจะแม่นอีกหรือเปล่าไปดูกันเลยค่ะ


สำหรับเลขเด็ดงวดนี้ คอหวยมาลุ้นกันต่อว่า งวด 01/10/61 นี้จะแม่นอีกหรือเปล่า หรือว่าจะหลุด ลอง



พิจารณาดูได้เลยครับ ชอบก็เซฟไว้เป็นแนวทางได้เลย แต่ถ้าไม่ชอบผ่านไปได้เลยครับ


ข้อมูลหวยเด็ดชุดนี้เป็นเพียงแนวทางในการเสี่ยงโชคสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น คอหวยและนักเสี่ยงโชคโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมและตัดสินใจร่วมด้วยก็แล้วกันนะครับ งวดหน้าเราเอามาฝากกันต่อ เลขเด็ด เลขดัง ทุกสำนัก ทุกอาจารย์


Cr:https://www.siammodern.com/post/12158/